1.ความเครียด
ความเครียด วิตกกังวล อาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ ประจำเดือนอาจขาดหายไปได้คราวละหลาย ๆ เดือน เนื่องจากความเครียดนั้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์และการมีประจำเดือน
2.ออกกำลังกายหนักเกินไป
การออกกำลังกายอย่างรุนแรง สามารถส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนได้เพราะร่างกายอาจจะสูญเสียไขมันในร่างกายที่มากเกินไป เมื่อคุณเผาผลาญแคลอรีมากเกินไปร่างกายของคุณไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะทำให้ระบบทั้งหมดทำงาน สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อรอบประจำเดือนของคุณซึ่งอาจจะนำไปสู่การล่าช้าของประจำเดือน หรือประจำเดือนขาดได้ หากคุณเป็นนักกีฬามืออาชีพคุณอาจจะต้องพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
3.การใช้ยาคุมกำเนิด
การใช้ยาคุมกำเนิด จะทำให้สาวๆมีประจำเดือนตรงกันในทุก ๆ เดือนแต่บางครั้งอาจมีผลตรงกันข้ามโดยเฉพาะในช่วง 2 หรือ 3 เดือนแรกของการใช้งาน แน่นอนว่ามันจะเกิดขึ้นกับการใช้ยาคุมกำเนิดทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบมีโปรเจสตินอย่างเดียว (POP) การฉีดยาคุมกำเนิด (IUS) หรือการใช้ห่วงคุมกำเนิด (Mirena) อย่างไรก็ตามประจำเดือนของคุณจะกลับมาสู่กระบวนการปกติหากคุณเลิกใช้ยาคุมกำเนิด
4.คุณมีภาวะไทรอยด์
ไทรอยด์ เป็นต่อมรูปผีเสื้อที่บริเวณคอของคุณ ซึ่งต่อมนี้จะผลิตฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ในร่างกายของคุณรวมถึงรอบประจำเดือน มีหลายเงื่อนไขที่อาจจะเกิดภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่องหรือไทรอยด์เป็นพิษ อาการไทรอยด์เป็นพิษอาจส่งผลต่อรอบเดือนของคุณทำให้เกิดความผิดปกติและมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดประจำเดือนไม่มา ล้าช้ากว่าเดิมหรือบางครั้งประจำเดือนของคุณอาจจะหายไปหลายเดือน
5.ถุงน้ำรังไข่หลายใบ
ภาวะนี้เกิดจากรังไข่มีถุงน้ำรังไข่เป็นจำนวนมาก โดยถุงน้ำเหล่านี้จะไม่ปล่อยไข่ให้ตกออกมา
6.วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน
วัยทองเป็นวัยที่หมดประจำเดือน นั่นเป็นเพราะระดับฮอร์โมนเพศหญิงจะเริ่มลดลงและการตกไข่จะน้อยกว่าปกติ โดยปกติผู้หญิงจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนในวัย 40 ปี เมื่อคุณเข้าสู่วัยนี้ประจำเดือนของคุณจะมา ๆ หาย ๆ เป็นเวลาประมาณ 4 ปีก่อนประจำเดือนของคุณจะหยุดอย่างสมบูรณ์
7.คุณกำลังตั้งครรภ์
หากทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมานั้นไม่ตรงกับคุณ คุณมีโอกาสที่คุจะตั้งครรภ์ หากคุณไม่แน่ใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่อาจจะซื้ออุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์มาทดสอบก่อน ลองทดสอบประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากเริ่มมีอาการประจำเดือนขาด